ที่มาคำว่า สปา

spa-07Spa มีรากศัพท์มาจากภาษาละตินว่า “Salus Per Aqua” หมายถึง health through water คือการใช้ประโยชน์จากน้ำพุร้อนหรือน้ำแร่เพื่อการฟื้นฟูสุขภาพ สาเหตุที่น้ำแร่สามารถรักษาสุขภาพได้ เนื่องจากในน้ำมีแร่ธาตุหลายชนิด ทั้งความร้อนและแร่ธาตุ จึงเป็นตัวช่วยกระตุ้นระบบการทำงานต่าง ๆ ของร่างกายให้ทำงานดีขึ้น

หากคุณเหนื่อยล้ากับหน้าที่การงาน หรือปัญหาต่างๆ ที่คอยรุมเร้า และอยากรู้สึกผ่อนคลาย สปาเป็นสถานที่หนึ่งที่ตอบโจทย์ของคุณได้ เพียงแต่ สปานั้นมีหลายประเภท ก่อนจะหาข้อมูล หรือบังเอิญไปเจอร้านสปา จะเดินดุ่ยๆ เข้าไป บางทีคุณอาจได้รับการบริกาผิดวัตถุประสงค์ก็ได้ ลองดูว่าสปามีกี่แบบ          

          ISPA แบ่งประเภทของสปาเป็น 7 ประเภท คือ

น้ำพุร้อนสปา (Mineral Spring Spa) เป็นสปาที่มีบริการน้ำพุร้อนและบ่อน้ำแร่ เนื่องจากอุดมไปด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ ที่สามารถลดอาการเจ็บป่วยบางชนิดได้ เช่น อาการปวดจากโรคไขข้อ

          คลับสปา (Club spa) คือสปาขนาดเล็ก จัดไว้เป็นส่วนหนึ่งของสถานบริการบริหารร่างกาย (Fitness) หรือศูนย์สุขภาพ (Health club) ให้ผู้ที่มาออกกำลังกายได้ผ่อนคลายความตึงเครียด

          โรงแรมและรีสอร์ทสปา (Hotel & Resort Spa) เน้นความเป็นสถานที่พักผ่อนและการนวดโดยเฉพาะ มีการจัดให้สถานที่มีบรรยากาศดี ทัศนียภาพและภูมิทัศน์ที่สวยงาม ควบคู่ไปกับปรนนิบัติร่างกาย ผิวพรรณ และบำบัดความเครียดจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง

          เดสทิเนชั่นสปา (Destination Spa) มีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับหรือฟื้นฟูสุขภาพของผู้ใช้บริการให้ดีขึ้น เป็นสถานบริการสปาแบบองค์รวม มีบริการครบวงจร เช่นการนวดรูปแบบต่างๆ การสร้างสมดุลโดยอาศัยความร้อนและความเย็นของน้ำ หรือ วารีบำบัด และความเข้มงวดเรื่องโภชนาการ และอื่น ๆ

          เดย์สปา (Day Spa) เป็นสปาที่ไม่มีห้องพักค้างคืน ใช้ระยะเวลาสั้น ส่วนใหญ่เน้นเรื่องความสวยงามและผ่อนคลาย

          เมดิคอลสปา (Medical Spa) คือการนำธรรมชาติบำบัดมาผสมผสานกับวิทยาการทางการแพทย์ เป็นโปรแกรมการบำบัดรักษาและดูแลสุขภาพโดยแพทย์และบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ

          โฮมสปา (Home Spa) คือการทำสปาเองที่บ้านโดยการซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็น หรือการเรียกใช้บริการลักษณะ Delivery ของสถานบริการสปาที่จะส่งพนักงานมาให้บริการถึงบ้าน

          จะเห็นว่าสปา เป็นการฟื้นฟู เพื่อการผ่อนคลายความตึงเครียด ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ อย่างไรก็ดี ควรดูแลตัวเองด้วยความไม่ตึงเครียดด้วย

ส่วนประกอบของ โกเรจินส์ KOREGINS

1.สารสกัดมาตรฐานโสม (Standardized Ginseng Extract) ในโกเรจินส์

คุณสมบัติจากสารสกัดจากมาตรฐานโสม

พลังเย็น (หยาง) หลับสบาย ผ่อนคลาย กระตุ้นให้ระบบเผาผลาญในร่างกายนำออกซิเจนไปใช้ในทุกๆส่วนของเซลล์ได้ดี

พลังร้อน (หยิน) กระการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง กระปรี้กระเปร่า ด้านความเมื่อยล้าและความรู้สึกเครียด เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย

พลังชี เลือดลมหมุนเวียนดี ปรับอุณหภูมิในร่างกาย

สุดยอดแห่งยาอายุวัฒนะ ราชาแห่งสมุนไพร

2.นมผึ้ง (Royal Jelly) ในโกเรจินส์

คุณสมบัติจากนมผึ้ง (Royal Jelly)

เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ต้านเชื้อแบคทีเรีย

อาหารของนางพญาผึ้งที่ต้องออกไข่วันละ 2,000ฟอง ทุกวันตลอดอายุไข

ช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็งไม่ให้ขยายตัว

บำรุงประสาท และสมอง ป้องกันโรคอัลไซเมอร์

ฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ป่วยระยะพักฟื้น

ปรับความดันโลหิตให้เป็นปกติ

ควบคุมและปรับระดับฮอร์โมนในผู้หญิงวัยทอง 

3.สารสกัดจากเห็ดหลินจือ (Lingzhi Extract) ในโกเรจินส์

คุณสมบัติจากเห็ดหลินจือ(Lingzhi)

เป็นยาจีนที่ใช้กันมานานกว่า 2,000 ปี

ป้องกันการกลายพันธุ์ของ DNA จากอนุมูลอิสระ

ต้านมะเร็ง โรคตับ ความดันโลหิตสูง

 ภาวะมีบุตรยาก เสริมสมรรถภาพทางเพศ

อัมพาต อัมพฤกษ์ โรคเก๊าท์ เส้นเลือดอุดตันในสมอง

เส้นเลือดหัวใจตีบ ตับแข็ง ตับอักเสบ ปวดประจำเดือน 

4.สารสกัดจากเมล็ดองุ่น (Grape Seed Extract) ในโกเรจินส์

คุณสมบัติจากเมล็ดองุ่น(Grape Seed Extract)

เพิ่มความแข็งแรงให้หลอดเลือด

สร้างภูมิคุ้มกันกับร่างกาย ไม่เป็นหวัดหรือภูมิแพ้ง่าย

เสริมสร้างการทำงานของคอลลาเจน

ต้านอนุมูลอิสระ ชะลอการแก่ก่อนวัย

ยับยั้งการเกิดเม็ดสีผิว สำหรับผู้ที่เป็นฝ้าและ กระ

เสริมการทำงานของกลูต้าไธโอน

เป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์อย่างดีเมื่อออกฤทธิ์กับสารสกัดจากเปลือกสน 

5.สารสกัดจากเปลือกสน (French Maritime Pine Bark Extract) ในโกเรจินส์

คุณสมบัติจากเปลือกสน (Pine Bark Extract)

ทำให้ผนังหลอดเลือดแข็งแรง และยืดหยุ่น ไม่เปราะ

เป็นสารต้านอนุมูลอิสระสูง ลดการอุดตันของลิ่มเลือด

เสริมการทำงานของวิตามินซี และ อี

เพิ่มคอลลาเจน ทำให้ไขข้อ ข้อต่อแข็งแรง

ลดความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจ เส้นเลือดขอด

ลดภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อ

ยับยั้งการทำงานของเม็ดสีผิวที่ผิดปกติ

ลดปัญหาฝ้า กระ ผิวหมองคล้ำ และริ้วรอยก่อนวัย 

6.แอล-ซิสเตอิน (L-Cysteine) ในโกเรจินส์

คุณสมบัติจากแอล-ซิสเตอิน(L-Cysteine)

เป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่ง และเป็นสารตั้งต้นในการสร้างกลูต้าไธโอนในตับอ่อนให้กับร่างกาย

ป้องกันตับจากการถูกทำลายโดยแอลกอฮอล์ สารพิษ จากบุหรี่ ยาพาราเซตามอลเกินขนาด

ต้านการเสื่อมของเซลล์ผิว ทำให้ผิวหน้าขาวใส เนียนเรียบ เปล่งปลั่งแบบธรรมชาติ รวมทั้งจุดด่างดำทั่วเรือนร่าง ผิวใต้วงแขน บริเวณขอบและภายในชุดชั้นใน ริมฝีปาก ให้ขาวอมชมพู 

7.เอสเตอร์-ซี (Ester-C)ในโกเรจินส์

อนุพันธ์ของวิตามินซีที่ไม่มีฤทธิ์เป็นกรด จึงไม่ระคายเคืองกระเพาะอาหาร ให้แคลเซียมที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ลดความเสื่อมของเซลล์ เป็นส่วนประกอบของสารช่วยย่อยชนิดหนึ่ง ในผิวหนัง ซึ่งทำหน้าที่ชะลอความแก่ ช่วย เสริมประสิทธิภาพของแอล-ซิสเตอีน ในกระบวนการสร้างกลูต้าไธโอน ในร่างกาย